สัปดาห์สุขภาพจิตแห่งชาติ ประจำปี 2562 “สุขภาพจิตไทย…ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง”

งานสัปดาห์สุขภาพจิตแห่งชาติ ประจำปี 2562
“สุขภาพจิตไทย…ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง”

ในยุคปัจจุบันนี้สังคมมีการพัฒนาไปอย่างมาก เทคโนโลยีต่างๆมีการพัฒนาอย่างก้าวกระโดด ความเจริญและความเป็นเมืองกระจายออกไปกว้างมากขึ้น ความก้าวหน้าด้านการแพทย์เจริญรุดหน้าไปอย่างมาก ในขณะเดียวกัน ผู้คนก็เริ่มให้ความสำคัญกับความรู้ด้านสุขภาพจิตมากขึ้น ไม่ต่างจากสุขภาพทางกาย แม้ว่าปัจจุบันประชาชนจะมีความตระหนักด้านสุขภาพจิตเพิ่มมากขึ้น แต่ปัญหาด้านสุขภาพจิตและความสูญเสียที่เกิดขึ้นยังคงเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงได้ยาก โลกยุคใหม่ที่เร่งรีบ คนเครียดจากงานมากขึ้น มีเวลาให้กันน้อยลง สาเหตุเหล่านี้นำมาสู่ความเครียดและปัญหาด้านสุขภาพจิตอื่นๆ เช่น โรคซึมเศร้า มีผู้ที่ประสบกับปัญหานี้อยู่ไม่ต่ำกว่า 1 ล้านคนทั่วประเทศ นอกจากนั้นยังมีตัวเลขผู้เสียชีวิตกว่า 4,000 รายต่อปีจากการฆ่าตัวตาย หรือ มีคนเสียชีวิตจากการฆ่าตัวตาย 1 รายในทุก 2 ชั่วโมง และมีการคาดประมาณการพยายามฆ่าตัวตายถึง 53,000 รายต่อปี หรือ มีคนพยายามฆ่าตัวตายทุกๆ 9 นาที 55 วินาที

“สุขภาพจิตไทย…ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง” จึงหมายถึงการแสดงพลังด้านสุขภาพจิตของคนไทย ที่ไม่เพียงแต่เป็นการทำงานโดยกรมสุขภาพจิตและกระทรวงสาธารณสุขเท่านั้น แต่จะเป็นการแสดงเจตนารมณ์ของทุกภาคส่วน ทั้งภาคีเครือข่ายด้านสุขภาพจิต ภาคเอกชน และภาคประชาสังคม โดยมุ่งเป้าให้คนไทยไม่ละเลยคนที่มีความเสี่ยงหรือกำลังประสบปัญหาด้านสุขภาพจิต และหยิบยื่นความช่วยเหลือออกไปให้คนรอบข้าง โดยเริ่มจากจุดเล็กๆ เช่น ครอบครัว โรงเรียน ที่ทำงาน ขยายไปสู่จุดที่ใหญ่ขึ้น เช่น องค์กร ชุมชน และสังคมไทย

การรณรงค์ให้คนไทยมีสุขภาพจิตที่ดีขึ้นในปีนี้จึงใช้ข้อความที่ว่า “ฟังกัน วันละสิบ” สื่อถึงการให้คนไทยรับฟังคนรอบตัวให้ได้ครบ 10 ครั้งในหนึ่งวัน หรือ ใช้เวลารับฟังกันเพิ่มขึ้นอีกวันละ 10 นาที โดยเป็นผู้รับฟังที่ดีและสามารถสื่อสารว่าฉันพร้อมรับฟังคุณ ซึ่งเป็นเครื่องมือที่ทุกคนสามารถทำได้ และจะเป็นเครื่องมือสำคัญที่จะช่วยให้คนไทยเข้าใจกันมากขึ้น ห่วงใยกันมากขึ้น และได้ระบายความทุกข์ใจก่อนที่จะสะสมจนกลายเป็นปัญหาด้านสุขภาพจิตตามมา นอกจากนั้น กรมสุขภาพจิตคาดหวังว่าการที่แต่ละคนรับฟังกันเพิ่มอีกวันละ 10 นาที จะช่วยครอบครัวให้สร้างเวลาร่วมกันที่มีคุณภาพได้ ซึ่งจะลดความสูญเสียด้านสุขภาพจิตและส่งเสริมสถาบันครอบครัวของไทยให้มีความเข้มแข็งมากขึ้นไปพร้อมๆกัน

Cookie Consent with Real Cookie Banner Skip to content